จีนมีแผนสร้าง Git VCS ของตัวเองขึ้นเป็นทางเลือกแทน GitHub

จับตาดู GitHub เวอร์ชั่นจีน โดยจีนมีแผนสร้าง Git VCS ของตัวเองขึ้นเป็นทางเลือกแทน GitHub

Gitee แพลตฟอร์มสำหรับเก็บซอร์สโค้ดออนไลน์ของจีนอ้างว่าตอนนี้ เป็นเบอร์ 2 เป็นรองเพียงแค่ GitHub สำหรับ Source Code Platform Service

สืบเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่เผชิญความตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่กรณีหัวเหว่ย และในขณะที่เกิดการแบน TikTok ในอเมริกา ทำให้นักพัฒนาจีนเกิดความกังวลในการเข้าถึงเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สอย่างเช่น GitHub ซึ่งนักพัฒนาทั่วโลกต่างต้องพึ่งพาอาศัยแพลตฟอร์มนี้ แน่นอนรวมไปถึงจีนเองด้วยเช่นกัน

นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของจีนนั้นอาศัย GitHub ในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน ไม่ว่าแอปใหญ่ ๆ ต่าง ๆ ล้วนแล้วต้องพึ่งพา GitHub ในการเก็บซอร์สโค้ด แต่ความตึงเครียดระหว่างจีนและอเมริกา ทำให้จีนต้องพุ่งเป้าไปที่แผน B

บทบาทของ Open Source

ถ้าหากว่าตอนนี้เราไม่ใช่คนที่หลงไหลหรือเกี่ยวข้องกับด้านเทค ฯ แล้ว ก็คงไม่ตระหนักว่าหลาย ๆ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ระดับโลกนั้น ล้วนต้องพึ่งพาโอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์ การดูภาพยนตร์บน Netflix สไลด์ดูรูปบน Instagram หรือแม้แต่กิจกรรมด้านออนไลน์อื่น ๆ ล้วนแล้วแต่ได้รับการช่วยเหลือจากโอเพ่นซอร์สเทคโนโลยี

Plan B 

โดยแผน B นั้นถูกเรียกว่า Gitee และถูกดำเนินงานโดย Open Source China (OSChina) ซึ่งได้เรียกตัวเองว่าเป็นคอมมิวนิตี้โอเพ่นซอร์สที่ใหญ่ที่สุดในจีน
ในเดือนกรกฎาคม กระทรวงอุตสาหกรรมของสารสนเทศของจีน หรือ Ministry of Industry and Information Technology (MIIT) ได้ทำการเลือก Gitee ในการที่จะใช้เป็นแพลตฟอร์มในการเก็บซอร์สโค้ดสำหรับจีน โดยทาง Gitee เองได้กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
“การประสานงานร่วมกันแบบไร้พรมแดน คือหนึ่งในคีย์หลักของโอเพ่นซอร์ส แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จีนจำเป็นต้องพิจารณาและมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนในการขับเคลื่อนนวัตกรรม Charlie Dai นักวิเคราะห์จาก Forrester ได้กล่าวไว้

ผลสำรวจการใช้ Open Source

แพลตฟอร์มเช่น GitHub นั้นอนุญาตในการเข้าถึงโอเพ่นซอร์สโปรเจคท์สำหรับทุก ๆ คน บนโลกนี้ จากการสำรวจของ Red Hat ในการสำรวจ 950 บริษัทชั้นนำทั่วโลก ผลสำรวจกว่า 95% บอกว่าโอเพ่นซอร์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับพวกเขา

จุดเริ่มต้นจากปัญหาสงครามการค้า

จากความหวาดระแวงในเรื่องของการตัดความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศนั้น ได้เริ่มขึ้นเมื่อนักพัฒนาจีนพบว่าซอฟต์แวร์ที่พวกเขาได้มีการพัฒนาบน GitHub นั้น จำเป็นต้องมีการปฏิบัติตามกฏหมายการส่งออกของทางสหรัฐ รวมไปถึงกฎ EAR (Export Administration Regulations) ซึ่งเป็นกฏหมายเดียวกันกับที่ใช้ในการขัดขวางการส่งออกสินค้าบางตัว เช่น ชิพ ให้กับ Huawei และบริษัทที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ GitHub ยังบล็อกการเข้าถึง Enterprise Server ของ GitHub จากหลายประเทศเช่น อิหร่าน, เกาหลีเหนือ

GitHub ได้ออกมากล่าวถึงนี้

แต่กระนั้นทาง GitHub เองได้ออกมาอธิบาย เพื่อที่จะบรรเทาความกังวลเหล่านี้ลงไป
ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว การเตรียมการของการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ทั่วทั้งระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การประสานงานในการเขียนโค้ดร่วมกันในรีโพ (Repository: ที่เก็บไฟล์ซอร์สโค้ด) บน GitHub ไม่ได้ แต่นี่ไม่เพียงพอที่จะหยุดความพยายามของจีนในการแปลงร่าง Gitee ให้กลายเป็น GitHub สาขา 2 ให้จงได้

เทียบจำนวนผู้ใช้

กว่า 5 ล้านผู้ใช้และมากกว่า 10 ล้านโปรเจคท์ Gitee ได้อ้างว่าตัวเองนั้นคืออันดับที่ 2 สำหรับแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับเก็บซอร์สโค้ดออนไลน์
แต่อย่างไรก็ตาม มาทาง GitHub กันบ้าง ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน และโปรเจคท์มากกว่า 44 ล้านโปรเจคท์ โดยได้มีการเสนอในการเข้าถึงซอฟต์แวร์สำหรับนักพัฒนาและบริษัทชั้นนำทั่วโลก ดังนั้นสิ่งที่น่าท้าทายสำหรับ Gitee นั้นจะเป็นการยกระดับคุณภาพของ Repositories ของ Gitee เอง Dai ได้กล่าวไว้ไว้

“โปรเจคท์ชั้นนำส่วนใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านคลาวด์, AI, IoT และ blockchain นั้นล้วนแล้วแต่ถูกโฮสอยู่บน GitHub แทบทั้งสิ้น”

Dai ได้กล่าวย้ำอีกครั้ง

ความพยายามของ GitHub

แต่ GitHub เองนั้นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ลดละความตั้งใจสำหรับจีนที่จะค่อย ๆ ตีตัวออกจาก GitHub และไปพึ่งพาของแพลตฟอร์มภายในประเทศตัวเอง โดย CEO ของ GitHub นั่นก็คือ Erica Brescia นั้นได้ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ในปีที่แล้วว่า GitHub ยังคงมีการวางแผนที่จะร่วมทุนและทางนักพัฒนาจีนเองก็ชื่นชอบ GitHub เองเช่นกัน โดยจีนนั้นในตอนนี้เป็นประเทศอันดับสองที่มีนักพัฒนาและผู้ใช้ในการ contribute โปรเจคท์สู่ GitHub เยอะที่สุด

อย่างไรก็ตามทาง Gitee เองนั้นยังไม่ได้ตอบคำถามของเราเกี่ยวกับแผนของบริษัทและปัญหาที่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของจีนที่อาจจะกำลังเผชิญในอนาคตที่จะถึง โดยมีการพูดถึงแค่ว่าต้องการที่จะมุ่งไปที่การยกระดับผลิตภัณฑ์เพียงเท่านั้น

Gitee และความช่วยเหลือจากพันธมิตร

นอกเหนือไปจากการสนับสนุนจากทางรัฐบาล Gitee เองนั้นยังจะได้รับความช่วยเหลือจากหนึ่งในกลุ่มของ 10 องค์กรชั้นนำอย่าง Huawei ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของมูลนิธิโอเพ่นซอร์สซอร์ฟแวร์อย่าง Linux และ Apache ในปีที่แล้วบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทเลคอมของจีนนั้นได้กล่าวไว้ว่า มีการวางแผนที่จะช่วยสร้างมูลนิธิโอเพ่นซอร์สแห่งแรกของจีน

บทสรุป

ต้องมาลุ้นกับครับว่า สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร แต่เชื่อเหลือเกินว่างานนี้จีนดัน Gitee สุดแรงอย่างแน่นอน เพราะจีนตระหนักดีว่า การพึ่งจมูกคนอื่นหายใจนั้น มันไม่ยั่งยืน แต่ทุกอย่างไม่สามารถเสกได้เพียงชั่วข้ามคืน ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นจีน ต้องมีการวางแผนไว้และมีกลยุทธ์ที่จะพิชิตเป้าหมายนี้ได้อย่างแยบยลเป็นแน่ มีความคิดเห็นกันอย่างไร แชร์กันได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างกันเลยครับ

China pins its hopes on Gitee as an open source alternative to Microsoft’s Github amid US tech tensions

https://bit.ly/2Qyd2Wi

gitee

https://gitee.com/