เปิดตัว DataSpell IDE สำหรับงาน data science จาก Jetbrains

เปิดตัว  DataSpell  IDE สำหรับสายงาน data science โดยเฉพาะ จาก  JetBrians ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายชื่อนี้มาก เพราะเป็นบริษัทผู้พัฒนา IDEs ชื่อดังระดับโลกมากมายหลายตัว สาวกไพธอนที่คุ้นเคยก็ PyCharm เป็นต้น ที่มีตัว PyCharm Community ที่เป็นตัวฟรี และ PyCharm Professional ที่เสียตังค์ ที่เน้นงานด้าน Web Development แบบเน้น ๆ อ่านเพิ่มเติมในบทความ รีวิว PyCharm Community (Free) และ Professional (Paid Version) ต่างกันอย่างไร ?

DataSpell คือ IDE ตัวล่าสุดจาก Jetbrains ที่สร้างมาโดยเฉพาะสำหรับหนึ่งในอาชีพที่ถูกเรียกได้ว่าเซ็กซี่ที่สุดในปัจจุบันอย่าง data scientist หรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล โดยตอนนี้เป็นช่วงทดลองตลาด เปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานกันฟรี ๆ และเมื่อผู้ใช้งานเยอะขึ้นและระบบลงตัวแล้วนั้น แน่นอนว่าก็ต้องมีการปรับเป็นโมเดล subscription  ตามวงจรของธุรกิจ 

คำถามก็คือแล้วเจ้า IDE น้องใหม่ล่าสุดนี้มีอะไรดี มีฟีเจอร์เด็ด ๆ ตรงส่วนไหน ในเมื่อก็มีเครื่องมีให้ใช้ฟรีอย่าง Visual Studio Code (VS Code), JupyterNotebook, etc ให้ได้ใช้งานฟรี ๆ ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่าย ! 

แต่แน่นอนครับว่าทาง JetBrains ก็คงวิจัยและสำรวจตลาดมาดีแล้วแหละครับ ไม่งั้นคงไม่ทำออกมาแน่ ๆ เพราะ IDEs ที่ทำออกมาจะประสบความสำเร็จแทบจะทุกตัวเลยก็ว่าได้ ดังนั้นมันก็คงเจ๋งพอตัวแหละ

DataSpell Overview

Intelligent Jupyter notebooks

• Turned for high interactivity
• Smart coding assistance
• Local and remote notebooks

Interactive Python scripts

• Scientific Python console
• Cells in Python scripts
• Data and visualization outputs

Built-in tools and integrations

• Version control
• Terminal
• Database tools

เครดิตภาพ : JetBrains

Features

• Code completion อัตโนมัติทั้ง Jupyter notebooks และ Python scripts
• ตรวจสอบ error อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
• ซัพพอร์ต markdown ทั้งบน Jupyter notebooks
• Debugger เช่น breakpoints, จัดการสเตทของตัวแปร, ฯลฯ ซัพพอร์ตทั้ง Jupyter notebooks และ Python scripts 
• SQL ซัพพอร์ตฉบับเต็มในการเชื่อมต่อฐานข้อมูลประเภทต่าง ๆ รวมไปถึงการ import/export ข้อมูล และอื่น ๆ เพิ่มเติม
• ซัพพอร์ตภาษา R (ซึ่งภาษา R คืออีกหนึ่งภาษายอดนิยมมาก ๆ สำหรับงานด้าน data)
• ปลั๊กอินเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Vim emulation, Docker, VCS, custom appearance themes และอื่น ๆ อีกมากมายหลายตัว

จากภาพรวมฟีเจอร์ด้านบนที่ได้ลิสต์มาเป็นอย่างไรบ้างครับดีพอที่จะดึงดูดเงินในกระเป๋าเหล่าโปรแกรมเมอร์สายงานด้าน data science หรือไม่  เฉกเช่นซอฟต์แวร์เฮ้าส์สาย Python Web Development หลาย ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือของต่างประเทศนั้นเท่าที่สืบค้นหาข้อมูลมาจะพบว่าใช้ PyCharm Pro กันเสียส่วนใหญ่ครับ เพราะว่า all in one ครบ จบ ใน IDE ตัวเดียว

สรุป

เท่าที่ลองดาวน์โหลดมาเล่นดูนิดหน่อยก็พบว่าค่อนข้างที่จะสะดวกเลยทีเดียวครับ ทั้งรัน Python scripts และ Jupyter notebooks ได้ในเครื่องมือตัวเดียว ไม่ต้องสลับไปมาเช่น เปิด Jupyter notebooks ไว้อีกแท็บ และเปิด VS Code หรือ PyCharm หรือ text editor/IDE ตัวอื่นไว้อีกแท็บ รวมไปถึงความสามารถในการเชื่อมต่อ databases ต่าง ๆ จัดการกับข้อมูลไม่ว่าจะเป็น import/export ข้อมูล code completion, interactive console แสดงพวก UI, กราฟ ต่าง ๆ โต้ตอบแบบเรียลไทม์, Version Control System ปลั๊กอินอื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม, ฯลฯ​ ดังนั้น IDE ตัวใหม่ล่าสุดนี้ จึงสะดวกและเหมาะมาก ๆ กับนักพัฒนาที่ต้องการพัฒนางานด้าน data science แบบจริง ๆ จัง ๆ ครับเพราะว่าครบครันจริง ๆ และคาดว่าถ้าไม่ติดเรื่อง cost เจ้า IDE ตัวนี้ก็น่าจะต้องดึงดูดหลาย ๆ บริษัทระดับ enterprise ที่จะต้องจ่ายค่า subscription เพื่อให้พนักงานของตัวเองได้ใช้งานกันครับ  ส่วนตอนนี้ ลองดาวน์โหลดมาใช้ฟรี ๆ กันดุก่อนได้เลยครับ

และนี่เป็นภาพรวมในเบื้องต้นเท่านั้นครับ สำหรับเครื่องมือใหม่ล่าสุดสุดแจ่มตัวนี้จาก JetBrains สำหรับเพื่อน ๆ ที่ได้ทดลองใช้แล้วหรือกำลังจะทดลองใช้งาน มีความคิดเห็นกันอย่างไร คอมเมนต์กันเข้ามาได้ครับที่โพสต์นี้ได้เลยครับ